ตรวจสอบค่าไฟฟ้าจากบ้านเลขที่ ด้วยตัวเอง ทำอย่างไร

ตรวจสอบค่าไฟฟ้าจากบ้านเลขที่

ในปัจจุบัน การตรวจสอบค่าไฟฟ้าจากบ้านเลขที่สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่จำเป็นต้องรอรับใบแจ้งหนี้จากการไฟฟ้าอีกต่อไป นี่เป็นวิธีที่ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีบ้านหลายหลังต้องดูแลค่าไฟฟ้า สำหรับใครที่ยังไม่รู้วิธีการตรวจสอบค่าไฟฟ้าจากบ้านเลขที่วันนี้เราจะมาแนะนำการตรวจสอบค่าไฟฟ้าว่าสามารถตรวจสอบได้จากที่ไหนบ้าง พร้อมแล้วเราไปดูรายละเอียดจากบทความนี้กันได้เลย

ตรวจสอบค่าไฟฟ้าจากบ้านเลขที่ ทำอย่างไร

ตรวจสอบค่าไฟฟ้ารายเดือน เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกคนควรให้ความสนใจ เพื่อวางแผนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และควบคุมค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามงบประมาณ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. ได้พัฒนาช่องทางการให้บริการที่ทันสมัยและสะดวกสบาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าในการติดตามข้อมูลค่าไฟฟ้าประจำเดือนได้อย่างง่ายดาย

วิธีแรกที่น่าสนใจ คือการตรวจสอบค่าไฟผ่านแอปพลิเคชัน PEA SMART LIFE ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันทางการของ กฟภ. ที่ให้บริการข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้า ผู้ใช้เพียงแค่ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันนี้บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต จากนั้นเข้าสู่ระบบด้วยหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าและรหัสผ่าน ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลค่าไฟฟ้าล่าสุดได้ทันที นอกจากนี้ แอปพลิเคชันยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การแจ้งเตือนกำหนดการชำระค่าไฟ และการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

อีกหนึ่งช่องทางที่สะดวกไม่แพ้กัน คือการตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของ กฟภ. (WWW.PEA.CO.TH) ผู้ใช้เพียงแค่เข้าเว็บไซต์ คลิกที่เมนู “ค่าไฟฟ้า” และเข้าสู่ระบบด้วยหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าและรหัสผ่าน ข้อมูลค่าไฟฟ้าล่าสุดก็จะปรากฏขึ้นมาทันที สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ก็สามารถโทรศัพท์ไปที่ CALL CENTER 1129 แจ้งความประสงค์ในการตรวจสอบค่าไฟฟ้า พร้อมแจ้งหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าและรหัสผ่าน เจ้าหน้าที่ก็จะอ่านค่าไฟฟ้าล่าสุดให้ทราบได้ทันที

ไม่ว่าจะเลือกช่องทางใดในการตรวจสอบค่าไฟฟ้า ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกคนจะได้รับความสะดวกสบายและประหยัดเวลา ช่วยให้การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเป็นเรื่องง่ายขึ้น สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิทัลที่ต้องการความรวดเร็วและทันสมัย เพราะในบ้านเรามีการใช้ไฟฟ้าในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นทีวี ชาร์จมือถือ หรือหม้อหุงข้าวดิจิตอลก็ตาม

บิลค่าไฟ

บิลค่าไฟ มีรายละเอียดอะไรบ้าง

บิลค่าไฟฟ้าเป็นเสมือนบัญชีรายการค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายให้กับการไฟฟ้าเป็นประจำทุกเดือน แม้บิลค่าไฟจะดูเหมือนเป็นเพียงแผ่นกระดาษธรรมดา แต่ภายในนั้นบรรจุรายละเอียดสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไป บิลค่าไฟฟ้าจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า รายละเอียดการใช้ไฟฟ้า และค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บ

1. ในส่วนแรก คือข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า นั่นคือชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าของเรา นอกจากนี้ยังระบุวันและเวลาที่มีการอ่านมาตรวัดหน่วยเพื่อคิดค่าไฟในรอบเดือนนั้น ๆ

2. ต่อมาในส่วนที่สอง เป็นรายละเอียดการใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะแสดงตัวเลขที่อ่านได้จากมาตรวัดหน่วยในครั้งก่อนและครั้งหลัง โดยจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่เรียกเก็บในเดือนนั้นจะเท่ากับผลต่างของตัวเลขทั้งสอง นอกจากนี้ยังมีประวัติการใช้ไฟย้อนหลัง 6 เดือนให้เปรียบเทียบอีกด้วย

3. ส่วนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดนั่นคือค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บ ซึ่งประกอบด้วยรายการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • ค่าพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ระบบส่งจ่ายไฟฟ้า และค่าผลิตไฟฟ้า
  • ค่าบริการรายเดือน เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหน่วยบริการ จัดทำและจัดส่งบิล รวมถึงงานดูแลลูกค้า รายการนี้เริ่มมีการเรียกเก็บตั้งแต่เดือนตุลาคม 2543
  • ค่า FT หรือค่าไฟฟ้าแปรผัน เป็นค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามต้นทุนเชื้อเพลิง ค่าซื้อไฟจากเอกชน และนโยบายของรัฐ มีการปรับเปลี่ยนทุก 4 เดือน ภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ.
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 7% ตามกฎหมายที่บังคับใช้

รายละเอียดเหล่านี้บนบิลค่าไฟฟ้าจึงเป็นเสมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจที่มาของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงตรวจสอบการใช้พลังงานได้อย่างครบถ้วนยิ่งขึ้น เพื่อการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อไป

ใช้ไฟเท่าเดิม แต่ทำไมค่าไฟแพงขึ้น

เรื่องคลาสสิกที่พบในช่วงหน้าร้อน คงหนีไม่พ้นการเสียค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ แม้จะใช้พลังงานไม่มากไปกว่าปกติก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงนั้นมาจากประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศที่ลดลง เนื่องจากต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้อยู่ในระดับที่ต้องการ

ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออากาศภายนอกอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส และปรับตั้งเครื่องปรับอากาศให้รักษาอุณหภูมิภายในห้องที่ 26 องศาเซลเซียส เครื่องปรับอากาศจะต้องทำงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะมีความแตกต่างของอุณหภูมิเพียง 4 องศา อย่างไรก็ตาม เมื่ออุณหภูมิภายนอกสูงถึง 36-40 องศาเซลเซียส ในขณะที่ตั้งค่าเครื่องปรับอากาศเหมือนเดิมที่ 26 องศา ความแตกต่างของอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเป็น 14 องศา ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิให้ได้ตามที่ตั้งค่าไว้

นอกจากนี้ การปรับลดอุณหภูมิลงทุก ๆ 1 องศาเซลเซียส จะทำให้เครื่องปรับอากาศต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ซึ่งหากปรับอุณหภูมิจาก 30 องศา ลงมาที่ 26 องศา ก็หมายถึงการเพิ่มการใช้พลังงานไฟฟ้าถึง 40% แล้ว ด้วยเหตุผลดังกล่าว หน้าร้อนจึงนับเป็นช่วงที่เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักและใช้พลังงานสูงขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ค่าไฟฟ้ารายเดือนพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

ค่าไฟแพง

ค่าไฟแพง ร้องเรียนที่ไหนได้บ้าง

สำหรับคนที่ประสบปัญหาค่าไฟฟ้าแพงผิดปกติ มีช่องทางร้องเรียนได้โดยตรงกับการไฟฟ้าในพื้นที่ของท่าน ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการแก้ปัญหา ทั้งนี้การร้องเรียนจะผ่านกระบวนการตรวจสอบโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

สำหรับผู้อาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ท่านสามารถร้องเรียนได้โดยตรงกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ผ่านเว็บไซต์ WWW.MEA.OR.TH หรือโทรศัพท์แจ้งที่หมายเลข 1130 ส่วนผู้อยู่ในจังหวัดอื่น ๆ สามารถร้องเรียนผ่านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ทางเว็บไซต์ HTTPS://COMPLAINT.PEA.CO.TH และหมายเลขโทรศัพท์ 1129

หลังจากรับเรื่องร้องเรียน เจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดรอบคอบ โดยพิจารณาจากประวัติการใช้ไฟฟ้าย้อนหลัง หากตรวจพบข้อผิดพลาดจากระบบของการไฟฟ้า ท่านก็จะได้รับการชดเชยตามควรแก่กรณี ดังนั้นหากพบปัญหาค่าไฟฟ้าผิดปกติ ควรรีบดำเนินการร้องเรียนโดยเร็วเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที

สรุป

หากพบความผิดปกติหรือข้อสงสัยใด ๆ จากการตรวจสอบค่าไฟฟ้าจากบ้านเลขที่ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อหรือร้องเรียนไปยังการไฟฟ้าในพื้นที่รับผิดชอบได้โดยตรง เพื่อขอคำชี้แจงหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที การให้ความสำคัญกับรายละเอียดในใบแจ้งค่าไฟฟ้าจะช่วยให้ผู้ใช้บริการมีข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนสำหรับการจัดการการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การกำจัดเห็บหมัดในบ้านเป็นสิ่งที่เราต้องทำหากในบ้านมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนับ หรือแมว

บทความน่าสนใจ