หลังจากเจาะหู มีข้อควรปฏิบัติที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้แผลหายเร็วและป้องกันการติดเชื้อ โดยหลังเจาะหู ห้ามกินอะไร ถ้าไม่อยากให้หูที่เจาะเกิดการอักเสบ เช่น งดแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจทำให้แผลอักเสบและหายช้า, งดอาหารทะเล เช่น ปู กุ้ง หอย ปลา เนื่องจากอาจกระตุ้นให้แผลบวมและอักเสบ, งดอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า ผักดอง เกี่ยวกับการอักเสบและการหายของแผล, งดอาหารที่ทำให้แผลอักเสบหรือบวม เช่น อาหารรสเผ็ด ต้องระมัดระวัง
การเจาะหูถือเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมจากคนยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็สามารถเจาะหูได้ แม้ว่าจะต้องเจ็บตัวบ้าง แต่หลังเจาะแล้ว ยังมีข้อควรระวังเป็นเก๊าท์กินอะไรหายในเรื่องอาหารการกิน เพื่อให้แผลหายไวและป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งรายการอาหารที่ควรงดจะมีอะไรบ้างวันนี้เราได้นำมาให้เรียนรู้ เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
หลังเจาะหูไม่อยากให้อักเสบ ห้ามกินอะไร ?
ใครเพิ่งเจาะหูมาใหม่ ๆ หรือเจาะครั้งแรก อาจกังวลเรื่องแผลและการอักเสบ ต้องระวังอย่างไรไม่ให้หูอักเสบ หลังเจาะหู ห้ามกินอะไรบ้าง มาดูกัน
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดหลังจากเจาะหู การดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้เกิดความร้อนสะสมในร่างกาย และความร้อนนี้จะส่งผลให้แผลเจาะหูเกิดการอักเสบ ส่งผลให้แผลหายช้ากว่าปกติ แนะนำให้งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงหลังจากเจาะหู เพื่อให้แผลหายเร็วและมีโอกาสติดเชื้อน้อย
อาหารทะเล
หลีกเลี่ยงอาหารทะเล อาหารทะเล เช่น กุ้ง ปู หอย ปลาหมึก และแมงดา เป็นกลุ่มอาหารที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดอาการแพ้อาหาร นอกจากนี้ ยังอาจทำให้แผลบริเวณที่เพิ่งได้รับการเจาะหูอักเสบมากขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารกลุ่มนี้หลังจากการเจาะหู
อาหารหมักดอง
ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหมักดองทุกประเภท หลังจากที่ได้เจาะรูหูแล้ว ของหมักดองอุดมไปด้วยเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ในปริมาณที่มาก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้และคันได้ เนื่องจากมีเกลือและน้ำตาลอยู่ในปริมาณสูง การได้รับน้ำตาลมากเกินไปสามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของแผลได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหมักดองทุกชนิด เพื่อป้องกันอาการแพ้และการอักเสบของแผล
หน่อไม้ทั้งดิบและดอง
หลีกเลี่ยงการรับประทานหน่อไม้ดองหรือหน่อไม้ดิบ หน่อไม้มีสารพิวรีนในปริมาณสูง ซึ่งสารนี้สามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตกรดยูริคเพิ่มมากขึ้น เมื่อกรดยูริคสะสมตามข้อต่าง ๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยและการอักเสบได้ แนะนำให้งดการรับประทานหน่อไม้ดองหรือหน่อไม้ดิบ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดการอักเสบ และอาการปวดเมื่อยตามข้อต่าง ๆ
เนื้อสัตว์
หลังจากเจาะหู ห้ามกินอะไร แนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อวัว เนื้อเป็ด เนื้องู เนื้อกบ และเนื้อจระเข้ เนื่องจากเนื้อสัตว์เหล่านี้มีเนื้อสัมผัสที่หยาบ ย่อยยาก และอาจทำให้ร่างกายผลิตความร้อนออกมามากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้แผลหลังเจาะหูเกิดการอักเสบได้ ในทางกลับกันไข่ไก่ถือเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับการรับประทานหลังเจาะหู เนื่องจากไข่ไก่อุดมไปด้วยโปรตีนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยในการสมานแผลอักเสบได้ดี ไข่ไก่จึงเป็นอาหารที่สามารถรับประทานได้หลังจากเจาะหู
เจาะหูอยากให้แผลหายเร็ว ต้องกินอะไร ?
- แซลมอน : แซลมอนถือเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของวิตามินบี ซึ่งมีหลากหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6 และ 12 นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีนคุณภาพสูง ทำให้แซลมอนช่วยบำรุงร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ธัญพืชไม่ขัดสี : เมื่อร่างกายอ่อนแอหรือบาดเจ็บ วิตามินบี 6 ถือเป็นสารอาหารที่สำคัญในการเสริมภูมิต้านทาน ซึ่งพบได้มากในธัญพืชไม่ขัดสี เช่น จมูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต รำข้าว ถั่วลิสง ถั่วเหลือง และวอลนัท อาหารกลุ่มนี้จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันที่มีประโยชน์ได้ดี ส่งผลให้ภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้น
- ผลไม้ : การรับประทานผลไม้ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซีซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกัน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยวิตามินซีนี้ร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้รับมาจากอาหารหรืออาหารเสริม ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ ฝรั่ง ส้ม สตรอว์เบอร์รี กีวี่ ลิ้นจี่ และมะละกอ
- เนื้อสัตว์ : เนื่องจากร่างกายไม่สามารถผลิตสังกะสีได้เอง จึงจำเป็นต้องได้รับสารนี้จากอาหารหรืออาหารเสริม โดยเนื้อสัตว์เป็นแหล่งที่มีสังกะสีสูงตามธรรมชาติ เช่น หอยนางรม เนื้อไก่ เนื้อหมู กุ้ง ปู และอาหารทะเล สังกะสีจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกัน เร่งการสมานแผล และลดอาการอักเสบ
- ชีสและนม : นมเป็นอาหารที่มีสังกะสีสูงมาก นอกจากนี้ยังให้โปรตีน แคลเซียม และวิตามินดี ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกได้เป็นอย่างดี
- ดาร์กช็อกโกแลต : ดาร์กช็อกโกแลตที่มีปริมาณโกโก้สูง 70-80% จะให้สังกะสีในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ประมาณ 3.3 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด และลดความดันโลหิตได้
วิธีดูแลแผลหลังเจาะหูไม่ให้เป็นหนอง
- เลือกต่างหูที่ปลอดภัย เมื่อเจาะหูเสร็จ หลายคนจะรีบหาต่างหูสวย ๆ มาใส่ทันที แต่ควรเลือกต่างหูที่มีคุณภาพ เช่น ต่างหูที่ทำจากเงินแท้หรือทองคำแท้ วัสดุเหล่านี้ไม่เกิดสนิม ไม่ก่อให้เกิดอาการคัน และไม่ระคายเคืองผิว จึงมีความปลอดภัยสูง และไม่ทำให้แผลเป็นหนอง
- ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำเกลือ อาจเข้าใจผิดคิดว่าการล้างแผลด้วยแอลกอฮอล์เป็นวิธีที่ดีและสะอาดที่สุด แต่แท้จริงแล้วจะทำให้ปากแผลแห้งแตก แผลสมานช้าลง และอาจเป็นหนองตามมา ทางที่ดีคือใช้น้ำเปล่าหรือน้ำเกลือล้างและเช็ดทำความสะอาดแผล
- ใช้น้ำมันจากธรรมชาติช่วยเสริม น้ำมันจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว มีส่วนช่วยลดอาการระคายเคือง ลดการอักเสบ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น จึงควรนำมาทาบริเวณแผลที่เจาะหูใหม่ๆ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล การแตะสัมผัสบริเวณใบหูที่เพิ่งเจาะใหม่ๆ อาจทำให้เกิดอาการอักเสบและเป็นหนองได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล ยกเว้นเมื่อต้องล้างทำความสะอาดแผลเท่านั้น และต้องล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัส
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารที่ทำให้แผลบวม เจาะหู ห้ามกินอะไร ช่วงที่เพิ่งเจาะหูใหม่ ๆ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารหมักดอง เพราะจะทำให้แผลหายช้าและเป็นหนอง ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่แทน
- กินอาหารเสริมบำรุงร่างกาย การรับประทานอาหารเสริมที่มีวิตามินบี วิตามินซี ซิงค์ และธาตุเหล็ก จะช่วยให้แผลหายเร็วและไม่เป็นหนอง แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพราะอาจแพ้อาหารเสริมบางชนิด
สรุป
การเจาะหูเป็นกิจกรรมที่ต้องระมัดระวังและดูแลเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันการเกิดการอักเสบ ซึ่งสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ ผู้ที่เจาะหูต้องรู้ว่าหลัง เจาะหู ห้ามกินอะไร ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหาร เครื่องดื่มบางประเภทที่อาจทำให้เกิดการอักเสบ เช่น ไม้ประดับ อาหารที่เค็มจัด มีสีและแต่งกลิ่นมาก รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้เจาะหูควรดูแลความสะอาดของหูอย่างสม่ำเสมอ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อให้กระบวนการเจาะหูสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา