วิธีปลูกตะไคร้หอม ปลูกง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะ

ตะไคร้หอม

ตะไคร้หอม หรือที่รู้จักกันในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า CYMBOPOGON CITRATUS เป็นพืชในวงศ์ POACEAE มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียตอนใต้ แต่ปัจจุบันได้แพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเฉพาะในเขตร้อนชื้น ตะไคร้หอมจัดเป็นสายพันธุ์หนึ่งของ ตะไคร้ ซึ่งเป็นพืชเครื่องเทศที่คนไทยนิยมนำมาใช้ประกอบอาหารอย่างแพร่หลาย

สิ่งที่ทำให้ตะไคร้หอมโดดเด่นและเป็นที่นิยมนั้นก็คือ กลิ่นหอมสดชื่นและมีรสชาติเผ็ดร้อนอ่อน ๆ ซึ่งมาจากน้ำมันหอมระเหยชนิดพิเศษที่มีอยู่ในเนื้อเยื่อของพืช นอกจากนี้ตะไคร้หอมยังถูกนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ยาสมุนไพร และน้ำยากำจัดแมลงซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีปลูกตะไคร้หอม ซึ่งสามารถปลูกได้เองง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะในการปลูกอีกด้วย

จุดเริ่มต้นของตะไคร้หอมในประเทศไทย

ตะไคร้หอมถือกำเนิดในแถบทวีปเอเชียใต้ โดยมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในประเทศอินเดีย ก่อนที่จะแพร่หลายไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ รวมถึงประเทศไทย เมื่อช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 25 การแพร่กระจายของตะไคร้หอมเข้ามายังประเทศไทยนั้น มีบันทึกว่าเป็นผลงานของหลวงมิตรธรรมพิทักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทย ซึ่งท่านได้เดินทางไปยังอินเดียเพื่อศึกษาน้ำมันหอมระเหย ที่ในขณะนั้นกำลังได้รับความนิยมจากนักวิจัยชาวศรีลังกา หลังจากกลับมายังประเทศไทย หลวงมิตรธรรมพิทักษ์จึงได้นำหน่อพันธุ์ตะไคร้หอมมาปลูกเป็นแห่งแรกในจังหวัดชลบุรี อำเภอสัตหีบ และด้วยคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องกลิ่นหอมเข้มข้น ตะไคร้หอมจึงแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศไทยในเวลาต่อมา

ตะไคร้หอมได้รับความนิยมจากชาวบ้านไทย เนื่องจากประโยชน์หลักในการนำมาใช้สกัดน้ำมันไล่ยุง และยาสมุนไพรสำหรับใช้รักษาโรคภัยต่าง ๆ ในขณะที่การนำมาประกอบอาหารนั้นมีค่อนข้างจำกัด เพราะกลิ่นหอมที่แรงเกินไปอาจส่งผลต่อรสชาติของเมนูอาหารได้แม้จะมีข้อจำกัดในการใช้ปรุงอาหาร แต่ตะไคร้หอมก็ยังคงเป็นพืชสมุนไพรที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวไทย จนถือได้ว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการใช้สมุนไพรพื้นบ้านของคนไทยมาจนทุกวันนี้

ตะไคร้หอมในประเทศไทย

ตะไคร้หอม คืออะไร และทำอะไรได้บ้าง

ตะไคร้หอม จัดเป็นพืชเครื่องเทศที่สำคัญของประเทศไทย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และเป็นหนึ่งในสองสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยทั่วโลก สายพันธุ์ไม้ประดับที่แพร่หลายในบ้านเรา คือ CYMBOPOGON NARDUS LINN. ซึ่งมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์โดดเด่นดังนี้

  • ลำต้นของตะไคร้หอมเป็นแบบล้มลุก คล้ายหญ้า มีอายุขัยได้นานถึง 8 ปี แต่โดยทั่วไปแล้วเกษตรกรมักเก็บเกี่ยวเมื่ออายุยังไม่มากนัก เพราะหลังจากนั้นกลิ่นหอมจะค่อย ๆ ลดน้อยถอยลง ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร แตกหน่อขยายพันธุ์ได้ทั้งทางต้นกล้าและเมล็ด แต่การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก
  • ใบของตะไคร้หอมมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว ยาวประมาณ 1 เมตร ปลายแหลม ขอบคมมีขนปกคลุม ก้านใบมีสีแดงอมม่วง ซึ่งแตกต่างจากก้านใบของตะไคร้บ้านที่มีสีเขียวอมขาว ใบของตะไคร้หอมจะบางและเปราะกว่าตะไคร้บ้าน
  • ตะไคร้หอมจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว เมื่อต้นแก่เต็มที่ โดยลักษณะดอกจะคล้ายรวงข้าว มีทั้งดอกเพศผู้และเพศเมีย เมื่อดอกสมบูรณ์จะกลายเป็นเมล็ดแห้งที่สามารถนำไปขยายพันธุ์ต่อได้

แม้ตะไคร้หอมและตะไคร้บ้านจะมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็ยังมีบางประการที่สามารถแยกแยะออกจากกันได้ นอกจากก้านใบที่มีสีแตกต่างกันแล้ว ส่วนสำคัญที่ช่วยจำแนกได้อย่างชัดเจนคือ กลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัวของดอกตะไคร้หอม ซึ่งต่างจากกลิ่นอ่อนกว่าของตะไคร้บ้าน ทำให้ตะไคร้หอมนิยมนำมาปรุงรสเป็นเครื่องเทศมากกว่านำมาประกอบอาหารโดยตรง เพื่อไม่ให้กลิ่นหอมจนกลบรสชาติเดิมของอาหารนั้น

วิธีปลูกตะไคร้หอม

ตะไคร้หอมเป็นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารไทยนานาชนิด นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ปวดท้องและบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ การปลูกตะไคร้หอมไว้ใช้เองที่บ้านนั้นไม่ยาก โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • เตรียมต้นพันธุ์ตะไคร้หอม โดยเลือกเหง้าหรือหน่อสมบูรณ์จากกอเดิม หรือหาซื้อต้นพันธุ์จากแหล่งค้าสมุนไพร เมื่อได้มาแล้วให้แช่น้ำไว้จนเริ่มมีรากงอกเล็กน้อย
  • เตรียมกระถางหรือแปลงดินปลูก ใช้ดินร่วนผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ตะไคร้ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี สำหรับการปลูกในกระถางให้เลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำด้านล่าง
  • นำตะไคร้ที่มีรากงอกแล้วปลูกลงในดิน ควรปลูกให้ลึกประมาณ 1 ใน 3 ของลำต้น ทำการปลูกห่างกันประมาณ 20 – 30 ซม.
  • หลังปลูกให้รดน้ำพอชุ่มดิน ไม่ควรให้น้ำท่วมขัง จากนั้นหมั่นรดน้ำวันละครั้งเช้าหรือเย็นให้ดินชื้นอยู่เสมอ
  • เมื่อตะไคร้เจริญงอกงามดีแล้วสามารถเก็บใบสดมาใช้ในการประกอบอาหารได้ตามต้องการ

โดยทั่วไปหลังจากปลูกตะไคร้หอมประมาณ 2-3 เดือน ก็จะสามารถเริ่มเก็บใบสดมาใช้งานได้แล้ว เป็นพืชที่ไม่ยากต่อการปลูกและเหมาะสำหรับปลูกไว้รับประทานเองในครัวเรือน นอกจากนี้ยังช่วยให้บ้านมีกลิ่นหอมสดชื่นอีกด้วย

สรรพคุณ ตะไคร้หอม

สรรพคุณ ตะไคร้หอม พืชประจำบ้านล้านคุณประโยชน์

ในบรรดาพืชสมุนไพรที่มีให้เห็นทั่วไปในบ้านเรา ตะไคร้หอมถือเป็นหนึ่งในพืชที่มีคุณประโยชน์หลากหลายด้าน ทั้งในการใช้รับประทานและนำมาแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ สารสำคัญจากตะไคร้หอมที่มีฤทธิ์ไล่ยุงและแมลง ได้แก่ซิทราล ทรานซ์ไอโซซิทราล ไลโมเนน ยูจีนอล ลินาลูล และการบูร เมื่อต้มน้ำตะไคร้หอมด้วยไฟอ่อน ๆ จะได้น้ำต้มที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ซึ่งสามารถใช้ไล่ยุงและแมลงรบกวนได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ การสกัดน้ำมันจากตะไคร้หอมก็ได้ผลิตภัณฑ์ผลไม้ไหว้รถ 9 อย่างที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน อาทิ การทำน้ำมันหอมระเหย ยาดม หรือผสมเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยน้ำมันจากตะไคร้หอมจะมีคุณสมบัติในการไล่ยุงและแมลงเช่นเดียวกับน้ำต้มตะไคร้หอม น้ำมันตะไคร้หอมประกอบด้วยสารกลุ่มเทอร์พีนอยด์และสารกลุ่มฟีนิลโพรพานอยด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญให้กลิ่นหอมที่แตกต่างกันไปตามกรรมวิธีการผลิตที่ใช้

ด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลายของตะไคร้หอม จึงถือได้ว่าเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ควรมีติดบ้านไว้เสมอ เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบอาหารและนำมาแปรรูปใช้งานได้หลายด้าน

สรุป

ตะไคร้หอม เป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณค่ามหาศาล มากกว่าการนำมาเป็นเครื่องปรุงรสอาหาร เนื่องจากตะไคร้หอมมีสารสำคัญหลายชนิดที่มีคุณสมบัติพิเศษ ทำให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในวงการอุตสาหกรรมและการแพทย์ได้อย่างกว้างขวาง ในทางอุตสาหกรรม สารสกัดจากตะไคร้หอมถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น น้ำหอม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ เนื่องจากมีกลิ่นหอมสดชื่น ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด และมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยชะลอวัยผิวได้

นอกจากนี้ ในวงการแพทย์ แพทย์แผนไทยนิยมนำตะไคร้หอมไล่ยุงมาผสมเป็นยาดมสมุนไพร เพื่อใช้ในการรักษาอาการวิงเวียน หน้ามืด หรือเป็นลม โดยช่วยให้รู้สึกสดชื่น คลายอาการได้ดี แม้กระทั่งต้นตะไคร้หอมสดก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในลักษณะเดียวกันได้ แต่ประสิทธิภาพอาจลดน้อยลงบ้าง

บทความน่าสนใจ