ในปัจจุบัน เครื่องฟอกอากาศ ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการดูแลคุณภาพอากาศภายในบ้านและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ โดยเครื่องฟอกอากาศนั้นสามารถช่วยเหลือในหลากหลายด้าน ด้วยประโยชน์หลากหลาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เครื่องฟอกอากาศถูกจัดเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับบ้านสมัยใหม่ที่ต้องการมีสภาพแวดล้อมภายในที่อยู่อาศัยที่ดีต่อสุขภาพของคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการบรรเทาอาการภูมิแพ้ การขจัดมลพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือการส่งเสริมสุขภาพโดยรวม ดังนั้น การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในบ้านจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้รับอากาศที่สะอาดและปลอดภัย ช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
เครื่องฟอกอากาศ คืออะไร ?
เครื่องฟอกอากาศ หรือ Air Purifier เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างสภาพอากาศในบริเวณในบ้านหรือสถานที่ทำงานให้ปลอดภัยมากขึ้น มันทำหน้าที่กำจัดสิ่งสกปรกและสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในอากาศ เช่น ฝุ่น แบคทีเรีย ไวรัส ฯลฯ ที่เป็นต้นเหตุของภูมิแพ้และโรคต่าง ๆ ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอับ และกลิ่นเหม็นในบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
การทำงานของ เครื่องฟอกอากาศ เริ่มต้นจากการดูดอากาศเข้าสู่ตัวเครื่องผ่านตัวกรองต่าง ๆ ซึ่งมีหน้าที่คัดจับสิ่งสกปรกและสารต่าง ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ออกจากอากาศ เมื่อผ่านกระบวนการทำความสะอาดแล้ว เครื่องฟอกอากาศจะปล่อยอากาศที่บริสุทธิ์ออกมาเพื่อให้คุณสามารถหายใจและสัมผัสกับอากาศที่สดชื่นได้อย่างสบายใจ เพื่อประหยัดค่าไฟใช้งานแอร์ เปิดแอร์แบบ ประหยัดไฟ ลองปรับตั้งค่าอุณหภูมิให้อยู่ที่ระดับที่สบาย และปิดหรือลดทอนลมเมื่อไม่ต้องการใช้งาน รวมถึงทำความสะอาดและบำรุงรักษาเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แอร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน
ระบบการทำงานเครื่องฟอกอากาศ
ในปัจจุบัน เครื่องฟอกอากาศ ได้รับการพัฒนาให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น แต่สามารถแบ่งระบบการทำงานหลักของเครื่องฟอกอากาศออกเป็น 5 ระบบ ดังนี้
- ระบบการกรองอากาศ (Air Filters) เป็นระบบที่ใช้แผ่นกรองเพื่อกำจัดฝุ่นละออง แบคทีเรีย ไวรัส หรือสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ออกจากอากาศ โดยมีตัวกรองหลายประเภท เช่น กระดาษ เส้นใย ตาข่าย แต่ที่นิยมใช้มากที่สุดคือแผ่นกรองอากาศแบบ HEPA (High Efficiency Particulate Air) ซึ่งสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กไม่น้อยกว่า 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% และมีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 3-5 ปี
- ระบบตรึงประจุไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Precipitator) เป็นระบบที่ใช้หลักการของไฟฟ้าสถิตในการปล่อยประจุไฟฟ้าลบออกมาจับอนุภาคขนาดเล็กที่มีประจุบวก ทำให้อนุภาคเหล่านั้นมีน้ำหนักมากขึ้นและตกลงสู่พื้น ไม่ลอยฟุ้งกระจายในอากาศ
- ระบบกรองก๊าซ (Gas-phase air filters) ใช้สารเคมี เช่น ถ่านกัมมันต์หรือแอคทิเวเต็ดคาร์บอน (Activated Carbon) ในการดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์และก๊าซพิษออกจากอากาศ
- ระบบผลิตโอโซน (Ozone generator) ใช้แสงยูวีหรือกระแสไฟฟ้าในการสร้างโอโซนเพื่อฆ่าเชื้อโรค สารเคมี และกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศ
- ระบบรังสีอัลตราไวโอเลต (UV Light) ใช้รังสีอัลตราไวโอเลตในการฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ที่ปะปนอยู่ในอากาศ
ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ ที่ไม่ควรมองข้าม
เครื่องฟอกอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยลดอาการภูมิแพ้ที่เกิดจากไรฝุ่นหรือฝุ่นละอองต่าง ๆ ในอากาศ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- การดักจับฝุ่นละออง เครื่องฟอกอากาศจะดักจับฝุ่นละอองขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่ปะปนอยู่ในอากาศเข้าไปในตัวเครื่อง จากนั้นจึงปล่อยอากาศที่ผ่านการฟอกแล้วออกมา ซึ่งจะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองที่อาจก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ เช่น คันจมูก จาม หรือน้ำมูกไหล
- การป้องกันการรบกวนการพักผ่อน เมื่อใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน จะช่วยให้มีอากาศสะอาดปราศจากฝุ่นละออง ขนสัตว์ และสารก่อภูมิแพ้ ช่วยให้คุณสามารถหลับสนิทตลอดคืน ไม่ถูกรบกวนจากอาการภูมิแพ้ต่าง ๆ
- การกำจัดสารอันตราย เครื่องฟอกอากาศสามารถกำจัดก๊าซอันตรายต่าง ๆ เช่น Acetaldehyde, Ammonia, Formaldehyde, Toluene, SO2, NO2 ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ รวมถึงกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว การที่ได้รับอากาศบริสุทธิ์ปราศจากมลพิษทางอากาศ ช่วยให้หายใจได้ดีขึ้น รู้สึกกระฉับกระเฉง อารมณ์แจ่มใส และลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เส้นเลือดสมอง หัวใจ และหลอดเลือด
การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ
- ขนาดห้อง เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดห้องหรือพื้นที่ที่จะติดตั้ง เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นจะมีความสามารถในการทำงานครอบคลุมพื้นที่ที่แตกต่างกัน หากเลือกขนาดไม่เหมาะสม จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงหรือเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ
- ระบบการทำงาน พิจารณาคุณสมบัติและระบบการทำงานของเครื่องฟอกอากาศว่าตรงกับความต้องการของผู้ใช้หรือไม่ โดยเฉพาะระบบกรองอากาศที่มีความสำคัญมาก ควรเลือกเครื่องที่มีฟิลเตอร์ HEPA ซึ่งสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ตัวระบุการเปลี่ยนแผ่นกรอง ก็เป็นคุณสมบัติที่ควรพิจารณาด้วย
- ค่า Airflow ค่า Airflow หรือความเร็วลมที่เครื่องฟอกอากาศสามารถดูดอากาศเข้าและปล่อยออกมา โดยยิ่งมีค่า Airflow สูงก็หมายถึงประสิทธิภาพการฟอกอากาศที่ดีขึ้น
- ค่า CADR ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) คืออัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ต่อนาที ซึ่งเป็นค่าสากลที่ใช้วัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ ค่า CADR ที่สูงกว่าแสดงว่าเครื่องฟอกอากาศมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
- ระดับเสียง พิจารณาระดับเสียงของเครื่องฟอกอากาศขณะทำงาน เนื่องจากเสียงที่ดังมากอาจรบกวนการพักผ่อนได้ ระดับเสียงที่เหมาะสมควรไม่เกิน 30-31 เดซิเบล
- การประหยัดไฟ เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองที่มีความหนาแน่นมาก ทำให้อากาศไหลผ่านได้น้อย จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ดังนั้น ควรเลือกเครื่องที่มีแผ่นกรองให้อากาศไหลผ่านได้ดีเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน
- ราคา นอกจากพิจารณาราคาของตัวเครื่องแล้ว ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแผ่นกรองหรือไส้กรองด้วย เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศทุกรุ่นจะต้องมีการเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ระบบยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศ อย่าลืมถามหาฟังก์ชันเสริม
การเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เริ่มต้นจากคุณลักษณะหลักๆ ของการกรองอากาศ และอีกทั้งฟังก์ชันเสริมที่อาจจะมีประโยชน์ในการใช้งานประจำวัน นอกจากการกรองอากาศ เครื่องฟอกอากาศบางยี่ห้อยังมีฟังก์ชันเสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน เช่น การเพิ่มความชื้นในอากาศที่ช่วยป้องกันผิวหนังแห้ง หรือช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นในห้องแอร์
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ เช่น การดักจับยุง และการฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UVก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เครื่องฟอกอากาศควรพิจารณาความจำเป็นของฟังก์ชันเสริมเหล่านี้ด้วย ไม่ควรเลือกซื้อเครื่องที่มีฟังก์ชันมากเกินไป เพราะอาจทำให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างไม่จำเป็น แต่ควรเลือกฟังก์ชันที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณในทุกๆ สถานการณ์ เสื้อเปื้อนหมึกปากกาทำไง เมื่อเสื้อของคุณเปื้อนหมึกหรือปากกา คุณสามารถลองใช้สบู่ล้างจานละลายน้ำร้อนในชาม แล้วนำเสื้อมาแช่ในน้ำอุ่นพอสมควร เพื่อให้สบู่ล้างจานไปทำความสะอาดเปื้อนได้เป็นอย่างดี หากยังมีเปื้อนอยู่ให้ใช้แปรงฟันเก่าหรือพร้อมกับที่ให้สบู่ล้างจาน ลบเปื้อนออกจากเสื้อ แล้วนำเสื้อไปซักรีดเหมือนเดิม
บทสรุป
การเลือกใช้ เครื่องฟอกอากาศ มีความสำคัญอย่างมากในการสร้างสุขภาพและความพึงพอใจในชีวิตประจำวัน แม้ว่าตลาดจะมีเครื่องฟอกอากาศให้เลือกใช้หลากหลายรุ่น ยี่ห้อ และราคา แต่เทคโนโลยีการผลิตกลายเป็นจุดสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างใกล้ชิด เพราะมันมีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานและประสิทธิผลที่คุณจะได้รับ การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีราคาไม่แพงไม่ได้หมายความว่าคุณต้องสละคุณภาพไปเสีย ในทางกลับกัน มันอาจมีประสิทธิภาพที่ดีและเหมาะสมกับพื้นที่การใช้งานของคุณ การทำให้อากาศสะอาดและมีโอโซนที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่นมีผลต่อสุขภาพและความผ่อนคลายของคุณในทุก ๆ วัน